การใช้โซเชียลมีเดียบ่อยครั้งอาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกิน

ความจำเป็นที่ต้องตรวจสอบโซเชียลมีเดียเป็นระยะๆ อาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกินที่สำคัญ เช่น โรคเบื่ออาหาร โรคการกินมากเกินไป และโรคบูลิเมียเนิร์โวซา

ความผิดปกติของการกิน, สาเหตุของความผิดปกติของการกิน, ข้อเสียของโซเชียลมีเดีย, ผลกระทบของโซเชียลมีเดียที่มีต่อสุขภาพ, bulimia nervosa, anorexia nervosa, ความผิดปกติของการดื่มสุรา, ข่าวสุขภาพการใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไปทำให้เกิดความผิดปกติของการกิน เช่น อาการเบื่ออาหาร โรคการกินมากเกินไป เป็นต้น (ที่มา: Flickr.com)

“การใช้โซเชียลมีเดียมากเกินไป เช่น Facebook, Instagram หรือ YouTube อาจนำไปสู่ความผิดปกติของการกิน และความกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของคนหนุ่มสาว” งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็น



ความผิดปกติของการกิน ได้แก่ อาการเบื่ออาหาร nervosa, bulimia nervosa, ความผิดปกติของการกินการดื่มสุรา และปัญหาสุขภาพทางคลินิกและสุขภาพจิตอื่นๆ ที่ผู้คนมีภาพร่างกายที่บิดเบี้ยวและลำดับการกิน



แมงมุมขาขาวดำ

อ่านเพิ่มเติม

เราทราบมานานแล้วว่าการเปิดรับสื่อรูปแบบเดิมๆ เช่น นิตยสารแฟชั่นและโทรทัศน์ มีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของการรับประทานอาหารที่ไม่เป็นระเบียบและความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง Jaime Sidani จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย Pittsburgh ในสหรัฐอเมริกา



โซเชียลมีเดียผสมผสานแง่มุมทางภาพของสื่อแบบดั้งเดิมเข้ากับโอกาสสำหรับผู้ใช้โซเชียลมีเดียในการโต้ตอบและเผยแพร่แบบแผนที่อาจนำไปสู่ความกังวลเรื่องการกินและภาพลักษณ์ของร่างกาย Sidani ตั้งข้อสังเกต ผลลัพธ์ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Academy of Nutrition and Dietetics

แมงมุมลายทองด้านหลัง

นักวิจัยสุ่มตัวอย่างผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1,765 คน อายุ 19-32 ปี โดยใช้แบบสอบถามเพื่อระบุการใช้โซเชียลมีเดีย แบบสอบถามถามถึง 11 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนั้น – Facebook, YouTube, Twitter, Google Plus, Instagram, Snapchat, Reddit, Tumblr, Pinterest, Vine และ LinkedIn พวกเขาอ้างอิงโยงผลลัพธ์เหล่านั้นกับผลลัพธ์ของแบบสอบถามอื่นที่ใช้เครื่องมือคัดกรองที่กำหนดขึ้นเพื่อประเมินความเสี่ยงความผิดปกติของการกิน



นักวิจัยพบว่าผู้เข้าร่วมที่ใช้เวลาส่วนใหญ่บนโซเชียลมีเดียตลอดทั้งวันมีความเสี่ยงที่จะรายงานความกังวลเรื่องการกินและภาพร่างกาย 2.2 เท่า เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานที่ใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียน้อยลง



ผู้เข้าร่วมที่รายงานการดูโซเชียลมีเดียบ่อยที่สุดตลอดทั้งสัปดาห์ มีความเสี่ยง 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ตรวจสอบโซเชียลมีเดียน้อยมาก

ติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook , ทวิตเตอร์ , Google+ & อินสตาแกรม



บทความข้างต้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญ ขอคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพอื่นๆ เสมอ สำหรับคำถามใดๆ ที่คุณอาจมีเกี่ยวกับสุขภาพหรือสภาพทางการแพทย์ของคุณ



ดอกอะไรสวยที่สุด